---

วันที่ 17 พ.ค. 67 ณ ห้องสัมมนา 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนางณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทย ร่วมใจลดโลกร้อน” ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยมีนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ประธานกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิฑูรย์ นวลนุกูล นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายรองเพชร บุญช่วยดี รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก นางสาวณัฐนิช อินทสระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ข้าราชการ ภาคีเครือข่าย และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยขอบเขตความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้กิจการผ้าไทยในระดับชุมชน และท้องถิ่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมและสนับสนุนให้กิจการผลิตภัณฑ์ผ้าไทยในชุมชนหรือท้องถิ่นยื่นขออนุญาตการใช้เครื่องหมายรับรอง Carbon Footprint ของผลิตภัณฑ์ที่ดำเนินงานโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยในการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเครื่องหมายรับรอง Carbon Footprint ของผลิตภัณฑ์ จำนวน 20 ผลิตภัณฑ์ และในระยะถัดไป จะมีการร่วมมือกันในการทดสอบการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ จากการย้อมสีธรรมชาติของผ้า 4 เส้นใย ไหม ฝ้าย ใยกัญชง และซาติน เพื่อเปรียบเทียบการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ระหว่างสีเคมีและสีธรรมชาติ ว่าสามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เท่าไหร่ และสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนากิจการผ้าไทย ในชุมชนหรือท้องถิ่นในกิจกรรมหรืองานที่กรมการพัฒนาชุมชน หรือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) จัดขึ้น นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนมีพันธกิจในเรื่องของการส่งเสริมต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อให้เกิดผลผลิตในเชิงเศรษฐกิจฐานรากแก่พี่น้องประชาชนชาวไทย สืบเนื่องยาวนานกับการลดใช้สารเคมีในการผลิต โดยเฉพาะในเรื่องของผลิตภัณฑ์ผ้าไทยมีการส่งเสริมเรื่อยมาแต่ไม่มีความเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เป็นไปตามความต้องการของตลาดที่ต้องการเส้นใยจากธรรมชาติ ในปีที่ผ่านมาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงพระราชทานแนวทางหลายแนวทางในเรื่องเกี่ยวกับผ้าไทย และกิจกรรมที่ต่อเนื่องมาคือ Sustainable Fashion ที่ตอบโจทย์ในการทำให้โลกดีขึ้น ปลอดภัยกับผู้ผลิตและผู้บริโภคผู้สวมใส่ผ้าไทย และสามารถเปิดตลาดการค้าให้กับกลุ่มตลาดผู้บริโภคที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้น ลดการใช้สารเคมีโดยการใช้เส้นใยธรรมชาติ กิจกรรมในวันนี้กรมการพัฒนาชุมชนได้ร่วมมือกับหน่วยงานหลายภาคส่วนในการส่งเสริม และมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองและตรวจสอบในเรื่อง Carbon Footprint หลายผลิตภัณฑ์ และเชิญนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ประธานกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มาร่วมให้ข้อมูลแนวทางในการบริหารจัดการก๊าซเรือนในอนาคต อธิบดี พช. กล่าวต่อว่า “วันนี้เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่” ที่หน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย จะได้เป็นพลังที่สำคัญในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอาชีพเสริม และอาชีพหลักที่ก่อเกิดจากการนำภูมิปัญญาผ้าไทยของบรรพบุรุษมาส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย “ทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้” เพราะความคุ้นชินของระบบอุตสาหกรรมจากการใช้สารเคมี สีเคมี มันฝังอยู่ในจิตสำนึกของวิถีชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่เราพยายามพัฒนาประเทศไปสู่ประเทศอุตสาหกรรมใหม่ “ด้วยพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ทรงมีความมุ่งมั่นในการทรงงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผ่านกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชนในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านการรักษาภูมิปัญญาผ้าไทย ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้ผลักดันและเชื้อเชิญให้พี่น้องประชาชนได้ปรับเปลี่ยนการทำงานหาเลี้ยงชีพในด้านงานผ้า ด้วยการเลิกใช้สีเคมีเลิกใช้เทคโนโลยีที่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยทรงมีพระดำรัสให้ประชาชนช่างทอผ้าและผู้ประกอบการ OTOP ผ้าไทยทั้ง 76 จังหวัด น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้พี่น้องประชาชนพึ่งพาตนเองในเรื่องของการปลูกฝ้าย ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และปลูกพืชให้สีธรรมชาติ มาช่วยดูแลครอบครัว ดูแลสังคม และทำให้การประกอบการเรื่องการทอผ้าประเภทต่าง ๆ เกิดความเป็นมิตรให้กับสิ่งแวดล้อม และโลกใบนี้ ซึ่งท้ายที่สุดจะยังผลทำให้เกิดความมั่นคงของชาติและส่งผลต่อความมั่นคงของโลก เพราะการที่เราใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาตินั้นจะลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกหรือภาวะโลกร้อน” นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทยและนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ยังกล่าวถึงแนวคิดและกรอบการทำงานว่า กรมการพัฒนาชุมชนมีการส่งเสริมการผลิตผ้าไทยมาอย่างมากมาย มีบางส่วนที่ใช้สารเคมี และบางส่วนที่ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่ได้ใช้สารเคมี การสนับสนุนการใช้ผ้าไทยในปัจจุบัน เป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ในขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยก็ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการดี หากผ้าไทยที่ผลิตออกมานั้นดีกับสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตผ้าไทย ด้านนางณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวเพิ่มเติมว่า องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยที่เรียกว่าเป็น Satisfied Body หรือว่าเป็นหน่วยให้การรับรองปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Carbon Footprint จากการดำเนินการและอีกด้านหนึ่งการรับรองการลดก๊าซเรือนกระจก กิจกรรมในการลดก๊าซเรือนกระจก นำไปสู่การเก็บข้อมูลการคำนวณ Satisfied Body ในการรับรอง นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยให้บริการความรู้และพัฒนาศักยภาพต่าง ๆ ดังนั้น กรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยงานที่พร้อมจะทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ให้กับชุมชนและคนไทย เช่นเดียวกับเจตนาของกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน) พร้อมที่ให้การสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ว่าโครงการ Sustainable Fashion มุ่งส่งเสริมให้ใช้เส้นใยธรรมชาติ ในการย้อมธรรมชาติ การตัดเย็บ แต่อย่างไรก็ตามก๊าซเรือนกระจกหรือก๊าซคาร์บอนจะเกิดขึ้นอยู่ดี แต่การที่จะช่วยให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกได้จริง คือ การปลูกป่าปลูกต้นไม้ คาร์บอนเครดิต ที่จะช่วยให้ลดก๊าซเรือนกระจกและทำให้คาร์บอนสมดุล จะทำให้ผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยหรือแฟชั่นผ้าไทยได้รับการยอมรับ มาตรฐาน ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนจะดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยหน่วยงานองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ทำให้มาตรฐานเกิดขึ้นในประเทศไทยและให้คำแนะนำกับหน่วยงานให้สามารถเดินไปถึงจุดนั้น ที่ผ่านมาผ้าไทยมีการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งนับจากนี้กรม ฯ จะดำเนินการให้มาตรฐานเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม #WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood